ผมเป็นเกย์! ‘อดีตเปาคู้ต’ เปิดใจสาเหตุเสพโคเคน

เดวิด คู้ต อดีตผู้ตัดสิน พรีเมียร์ ลีก เปิดตัวว่าตนเป็นเกย์ พร้อมยอมรับการปิดบังเพศตัวเองมาตลอด คือหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ต้องหันไปเสพโคเคน เพื่อหลบหนีจากความกดดัน
เหตุฉาวปลายปีก่อนทำให้ คู้ต ต้องพ้นจากการเป็นผู้ตัดสินอาชีพในอังกฤษ และวันจันทร์ที่ผ่านมา
เดอะ ซัน
สื่อผู้ดี เผยแพร่บทสมภาษณ์สู่สาธารณะเป็นครั้งแรก:
“เพศผมไม่ใช่สาเหตุเดียวที่พาตัวเองไปสูจุดนั้น แต่ผมคงไม่ได้เล่าเรื่องราวอย่างแท้จริง หากไม่บอกว่า ตัวเองเป็นเกย์” อดีตเปาวัย 42 ปี เริ่มเปิดใจ
“ผมไม่บอกพ่อแม่จนอายุ 21 ผมไม่เคยบอกเพื่อนจนอายุ 25 ภายในส่วนลึกจิตใจ ผมรู้สึกอับอายเรื่องเพศตัวเอง โดยเฉพาะช่วงวัยรุ่น”
“ผมเก็บซ่อนอารมณ์ในฐานะผู้ตัดสินอายุน้อย และผมยังเก็บซ่อนเพศตัวเองเช่นกัน นั่นคือคุณสมบัติที่ดีในฐานะผู้ตัดสิน แต่เป็นคุณสมบัติที่แย่สุดๆ หากคุณเป็นมนุษย์คนนึง
“นั่นนำผมไปสู่พฤติกรรมทั้งหลายที่เกิดขึ้น ผมมีปัญหาเรื่องความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องเพศ ผมเป็นเกย์ และผมเจอเรื่องยากที่จะภูมิใจในตัวเองมานาน”
“ตลอดอาชีพผู้ตัดสิน ผมต้องรับคำเหยียดหยามที่ไม่น่าพอใจอย่างแรง และเมื่อรวมกับเรื่องเพศเข้าไป มันก็ยิ่งยากลำบาก”
“ผมไม่ต้องการเป็นคนที่เสนอหน้าออกมาให้โดนโจมตียิ่งกว่าเดิม วงการฟุตบอลยังมีหลายต้องที่ต้องทำเกี่ยวกับความเท่าเทียม และมันยิ่งมากกว่านั้นเมื่อเป็นสังคมทั่วไป”
“โคเคน ไม่ใช่สิ่งที่ผมต้องพึ่งพาแบบวันต่อวัน ผมเคยไม่ใช้มันมายาวนาน แต่มันคือหนึ่งในวิธีหลบหนีจากความเครียด และความกดดันจากการทำงานของผม”
“ผมจำตัวเองในวีดีโอเสพโคเคนนั้นไม่ได้ แต่นั่นคือตัวผม ผมกำลังเจอความยากลำบากเรื่องตารางเวลา และมันไม่มีโอกาสได้หยุดพัก สุดท้ายผมพาตัวเองหลบหนี”
“ผมพยายามทำให้ตัวเองดูแข็งแกร่งจากภายนอก สนามฟุตบอล คือสถานที่ซึ่งผมสามารถลงไปโฟกัสกับการตัดสิน แต่เมื่อผมกลับบ้าน มันก็ยากกว่าเดิม เพราะผมกำลังใช้ชีวิตด้วยโลกสองใบ”
“ถึงผู้คนที่กำลังอยู่ในสถานการณ์ของผม คุณควรขอความช่วยเหลือ และคุยกับใครสักคน เพราะถึงจะเก็บเอาไว้ แต่ยังไงมันก็ต้องปรากฎออกมา”
นอกจากเสพโคเคน คู้ต ยังมีอีกคลิปฉาวกล่าวโจมตีใส่ ลิเวอร์พูล กับ เยอร์เก้น คล็อปป์ และเจ้าตัวก็เขียนแถลงการณ์ถึง
Sky Sports
ในวันเดียวกับที่สัมภาษณ์เผยแพร่:
“ผมผ่านหนึ่งในช่วงเวลาที่ยากที่สุดในชีวิต ผมขอรับผิดชอบเต็มที่กับการกระทำ มันย่ำแย่กว่าสิ่งที่ผมคาดหวังจากตัวเองไปมาก”
“ผมเสียใจอย่างแท้จริงที่การกระทำของผมสร้างความเสียหาย และทำให้กีฬาที่ผมรักถูกมองในแง่ลบ หวังว่าผู้คนจะเข้าใจว่า ช่วงเวลาส่วนตัวที่ถ่ายไว้ในขณะผมอยู่ในจุดตกต่ำของชีวิต ไม่ได้สะท้อนถึงตัวตนที่แท้จริง”
“ตอนนี้ผมโฟกัสไปที่การฟื้นฟูสภาพจิตใจและความเป็นอยู่ หวังว่าประสบการณ์ของผมทั้งในและนอกในสนาม จะเป็นประโยชน์ต่อวงการฟุตบอลในอนาคต”
“สุดท้ายผมขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุน โดยเฉพาะเพื่อนฝูง, ครอบครัว, อดีตเพื่อนร่วมอาชีพ, PGMOL, ฮาเวิร์ด เว็บบ์ และผู้คนอีกนับไม่ถ้วนทั่ววงการฟุตบอล”
ที่มา: soccersuck